![]() ![]() |
![]() วังสวนบ้านแก้ว จันทบุรี
ช่วยกันกดแชร์สถานที่นี้ให้เพื่อนๆของคุณได้รู้จักด้วยนะค่ะ
ถนนรักศักดิ์ชมูล, ตำบล ท่าช้าง, อ.เมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี
วังสวนบ้านแก้ว (มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี)12.664, 102.0975 โทรศัพท์: 039-471064 มือถือ: 086-4402867 โทรสาร: 039-471064 http://www.wangsuanbankaew.com/ ภาพ: รูปปั้นสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี
การก่อสร้าง วังสวนบ้านแก้วในการก่อสร้างพระตำหนักและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ในสวนบ้านแก้ว สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ โปรดให้เป็นไปด้วยความประหยัดมากที่สุด โปรดให้จ้างชาวจีนมาสอนข้าราชบริพาร สร้างโรงทำอิฐเผาอิฐ เผากระเบื้องมุงหลังคา เนื่องจากในการก่อสร้างพระตำหนักใหญ่ต้องใช้อิฐเป็นจำนวนมาก การขนส่งมาจากกรุงเทพฯ เป็นเรื่องยุ่งยากและเสียค่าใช้จ่ายสูง อิฐของสวนบ้านแก้วจึงเป็นอิฐคุณภาพดี ขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับอิฐบางบัวทองมีสัญลักษณ์เป็นตัวอักษรว่า ส.บ.ก. ใช้ก่อสร้างเฉพาะในสวนบ้านแก้วเท่านั้น ยังมีอีกพระตำหนักหนึ่งคือตำหนักน้อย มีลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียว ซึ่งใช้เป็นที่รับรองพระราชอาคันตุกะ และทรงใช้เป็นที่ประทับสำราญพระราชอิริยาบถในบางโอกาส
จุดสำคัญๆ ภายในวังสวนบ้านแก้วเรือเขียวภาพ: เรือนเขียว เรือนเขียวตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของพระตำหนักใหญ่ อยู่ห่างจากพระตำหนักใหญ่ประมาณ ๒๐๐ เมตร เรือนเขียวเป็นเรือนไม้ชั้นเดียวทาสีเขียวทั้งหลัง ยกใต้ถุนสูงจากพื้นประมาณ ๕๐ เซนติเมตร มีระเบียงหน้าบ้านหลังคามุงด้วยกระเบื้องลอนคู่ มีทางขึ้นลงได้ ๒ ทางคือ บันไดทางด้านทิศใต้และบันไดทางด้านทิศเหนือของบ้านภายในตัวบ้าน แบ่งออกเป็น ๓ ห้อง และห้องน้ำ ๑ ห้อง ในอดีตเป็นบ้านพักของราชเลขานุการ ปัจจุบันใช้เป็นที่ทำการของผู้มาติดต่อเยี่ยมชมวังสวนบ้านแก้ว เรือนเทาภาพ: เรือนเทา เรือนเทาตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของพระตำหนักใหญ่ เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวทาด้วยสีเทาทั้งหลัง ยกใต้ถุนสูงจากพื้นประมาณ ๕๐ เซนติเมตร หลังคามุงกระเบื้องลอนคู่มีทางขึ้นลง ๒ ทาง คือ บันไดทางด้านทิศใต้ กับทิศเหนือ ในอดีต เรือนเทาเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ในระหว่างที่กำลังก่อสร้างพระตำหนักใหญ่ (ตำหนักเทา) เรือนแดงภาพ: เรือนแดง เรือนแดงตั้งอยู่ทางทิศใต้ของพระตำหนักใหญ่ห่างกันประมาณ ๒๐๐ เมตร เป็นเรือนไม้ชั้นเดียวทาด้วยสีแดงทั้งหลัง ยกใต้ถุนสูงจากพื้นประมาณ ๕๐ เซนติเมตรหลังคามุงด้วยกระเบื้องลอนคู่ มีบันไดขึ้นลง ๒ ทางคือ บันไดทางด้านทิศใต้และบันไดทางด้านทิศเหนือ รูปร่างตัวบ้านมีลักษณะเหมือนกับเรือนเทา แตกต่างกันเพียงสีบ้านเท่านั้น ในอดีตเรือนแดงเป็นบ้านพักของข้าหลวงที่ตามเสด็จสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี มาจากกรุงเทพฯ ศาลาทรงเหลี่ยมภาพ: ศาลาทรงเหลี่ยม ชื่อ "Tea House of the August Moon" ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของพระตำหนัก และห้องเครื่อง มีทางเข้าออก 2 ทางคือ ทางด้านทิศเหนือและทิศตะวันตก สมเด็จฯ ทรงใช้เป็นที่ประทับผักผ่อน และทรงใช้เป็นที่ประทับเสวยพระสุธารชา และประทับเสวยอาหารกลางวันและอาหารค่ำในบางโอกาส
ภาพ: บริเวณใกล้ๆ ก็จะมีส่วนของรูปและข้อมูลน่าสนใจหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ "รถยนส่วนพระองค์" ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ใช้เมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ ประทับที่สวนบ้านแก้ว เช่น ทรงใช้ไปจ่ายตลาด พระตำหนักเทาภาพ: ตำหนักเทา พระตำหนักเทา เป็นอาคารสองชั้น ครึ่งตึกครึ่งไม้แบบยุโรปทาสีเทา สร้างด้วย ไม้สักทองทั้งหลัง สมเด็จฯได้โปรดเกล้าฯ ให้หม่อมเจ้าสมัยเฉลิม กฤดากร ทรงควบคุมการก่อสร้างใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี สมเด็จฯ ทรงใช้เป็นที่ประทับและทรงรับรองพระราชอาคันตุกะ ปัจจุบัน ได้เก็บรักษาของใช้ส่วนพระองค์ และ นำมาจัดแสดงเพื่อให้ประชาชนระลึกถึงพระราชจริยวัตรในพระองค์ท่าน และจัดเป็นนิทรรศการต่างๆ ภาพ: ตรงกลางของห้องก็จะมีพระรูป รวมถึงทางซ้ายเป็นพระบรมโกศสำหรับบรรจุพระเกศา และทางขวาเป็นพระบรมโกศสำหรับบรรจุพระทนต์ของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี
ภาพ: ภายในตำหนักเทา ก็ยังคงความสวยงามของห้องที่สมเด็จฯ เคยประทับ
ภาพ: ของใช้ส่วนพระองค์ ที่จัดแสดงไว้ภายในตำหนักเทา (มีของใช้ส่วนพระองค์อีกหลายอย่างเช่น อุปกรณ์กีฬา, ชาม, ช้อน และอื่นๆ อีกหลายอย่าง) ตำหนักแดง (ตำหนักดอนแค)ภาพ: ตำหนักแดง หลังจากพระตำหนักเทาสร้างเสร็จแล้วประมาณ 2 ปี จึงโปรดฯ ให้สร้างพระตำหนักดอนแคหรือตำหนักแดงนามพระตำหนักดอนแคมีที่มาจาก บริเวณถนนด้านหน้าพระตำหนัก มีต้นแคฝรั่งปลูกเรียงรายงดงาม พระตำหนักคอนแคเป็นที่ประทับสำหรับ หม่อมราชวงศ์สมัครสมาน กฤดากร ราชเลขานุการส่วนพระองค์และเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ เป็นอาคารสองชั้นแบบยุโรปสร้างด้วยไม้สักทาสีแดง เป็นที่น่าสังเกตอยู่ประการหนึ่งคือ ทั้งสองพระตำหนักได้รับการออกแบบให้มีถังเก็บน้ำฝนไว้ใต้ดิน ถังใต้พระตำหนักเทาเป็นถังเล็กใช้ไม่ถึงเดือนน้ำก็หมด เมื่อสร้างพระตำหนักดอนแคจึงสร้างถังเก็บน้ำ 2 ถังใหญ่ เก็บน้ำฝนได้ถังละ 90 ยูนิต ทั้งนี้เพื่อมิให้ขาดแคลนน้ำในหน้าแล้ง ปัจจุบันมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี จัดเป็นพิพิธภัณฑ์วัฒธรรมท้องถิ่น ภาพ: มีการจัดแสดงหุ่นขนาดเล็กและอธิบายถึงชนชาติต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในจันทบุรีตั้งแต่สมัยก่อน
ภาพ: มีห้องจัดแสดงหุ่นเกี่ยวกับเสื่อจันทบูร
ภาพ: ห้องจัดแสดงเครื่องดนตรีและศิลปะการแสดงแบบของไทย ข้อมูลอื่นๆ
ภาพ: สำหรับคู่แต่งงานที่ต้องการภาพสวยๆ ก็มีมุมถ่ายภาพสวยๆ หลายมุมอย่างเช่นมุมนี้ (ติดต่อเจ้าหน้าที่ขอถ่ายภาพที่เบอร์ด้านบนนะคับ)
ภาพ: เป็นจุดถ่ายภาพสำหรับนักท่องเที่ยวเป็นที่ระลึก ความรู้สึกของทีมงานวังสวนบ้านแก้ว เป็นแหล่งข้อมูลทางวัฒนธรรม และ ประวัติของสำเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ซึ่งตัวผมเองใช้เวลา 1 วันเต็มๆ กับการเดินเก็บข้อมูลและถ่ายภาพ เพื่ออยากจะนำมาเผยแพร่เป็นความรู้ ให้กับเพื่อนๆ รวมถึงน้องๆที่ได้มีโอกาสเข้ามาชม ได้เรียนรู้ เพราะความหมายของการท่องเที่ยวอาจไม่ได้หมายถึงต้องไปยังที่ท่องเที่ยวดังๆ หรือเป็นที่ท่องเที่ยวที่คนไปกันเยอะๆ เสมอไป สถานที่ ที่เป็นประวัติ มีความเป็นมา ที่เราสามารถได้ความรู้ก็เป็นการท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่ใช้น้อย ผมก็อยากขอวิงวอนผู้ปกครองที่มีลูกมีหลาน อยากให้เห็นความสำคัญของแหล่งท่องเที่ยวเชิงความรู้ ให้เด็กๆ ที่เป็นอนาคตของชาติเราได้เรียนรู้ถึงประวัติต่างๆ ที่มีค่าของไทย ได้เรียนรู้ถึงประวัติของบุคคลสำคัญๆ ให้ลูกหลานเราได้ซึมซับถึงคุณประโยชน์ของบุคคลสำคัญเหล่านี้ได้ทิ้งเอาไว้ให้กับพวกเรา ลงข้อมูลวันที่ 15/12/2014 ศิลปะ
อนุรักษ์
ความรู้/การศึกษา
ถ่ายภาพแต่งงาน
ถ่ายรูป
ช่วยกันกดแชร์สถานที่นี้ให้เพื่อนๆของคุณได้รู้จักด้วยนะค่ะ
|